การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในบัญชีออนไลน์ บัญชีออนไลน์ที่เราเล่น เช่น Facebook, Instagram, Twitter หรือ TikTok ก็เหมือนห้องส่วนตัวของเรา เราควรตั้งค่าความเป็นส่วนตัว เพื่อไม่ให้คนที่เราไม่รู้จักหรือไม่หวังดีเข้ามาดูข้อมูลส่วนตัวของเราได้ง่ายๆ การทำเช่นนี้ช่วยลดโอกาสที่คนแปลกหน้าจะเข้าถึงข้อมูลของเราได้
Embedded Files
1. การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในบัญชีออนไลน์ (เหมือนล็อกห้องส่วนตัว)
บัญชีออนไลน์ที่เราเล่น ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก (Facebook), อินสตาแกรม (Instagram), ทวิตเตอร์ (Twitter) หรือติ๊กต็อก (TikTok) ก็เหมือนห้องส่วนตัวของเราเลยนะ เราสามารถ ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว เพื่อไม่ให้คนที่เราไม่รู้จัก หรือคนที่ไม่หวังดีเข้ามาดูข้อมูลส่วนตัวของเราได้ง่ายๆ การทำแบบนี้จะช่วยลดโอกาสที่คนแปลกหน้าจะเข้าถึงข้อมูลของเราได้
น้องๆ มีรูปน่ารักๆ ที่อยากโพสต์ แต่ไม่อยากให้ทุกคนเห็น น้องๆ ก็สามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของรูปนั้น ให้เห็นแค่ "เพื่อน" หรือ "คนในครอบครัว" ได้ เหมือนกับการที่น้องๆ เล่นของเล่นอยู่ในห้องส่วนตัว แล้วล็อกประตูไม่ให้คนแปลกหน้าเข้ามาเล่นด้วย
ทำไมเราถึงต้องตั้งค่าความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์นะ?
เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่เราไม่รู้จักหรือไม่หวังดีเข้ามาดูข้อมูลส่วนตัวของเราได้ง่ายๆ เหมือนกับการล็อกประตูบ้านไม่ให้คนแปลกหน้าเข้ามา
2. คิดก่อนโพสต์ คิดก่อนแชร์ และแจ้งเมื่อพบเนื้อหาไม่ปลอดภัย
ทุกกิจกรรมที่เราทำบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์รูป เขียนข้อความ หรือกดแชร์อะไรก็ตาม ต่างก็สะท้อนความเป็นตัวเรา และสร้างเป็นตัวตนดิจิทัลของเราทั้งหมดเลยนะ และที่สำคัญคือ ทุกๆ ครั้งที่เรากด "ส่ง" อะไรออกไป ข้อมูลนั้นจะคงอยู่ตลอดไปบนโลกดิจิทัล และไม่สามารถลบได้เลย ถึงแม้เราจะมองไม่เห็นก็ตาม และมันยังสามารถสืบย้อนกลับมาถึงตัวเราได้เสมออีกด้วย ดังนั้นเราจึงควรระมัดระวังทุกครั้งก่อนจะกด "ส่ง" และ ไม่ควรแชร์มากจนเกินไป เพราะยิ่งแชร์มาก ก็ยิ่งมีรอยเท้าดิจิทัลมากตามไปด้วย
ก่อนที่น้องๆ จะโพสต์รูปเพื่อนที่กำลังทำหน้าตลกๆ ลงบนโซเชียลมีเดีย ลองคิดดูก่อนนะว่า "รูปนี้จะทำให้เพื่อนเสียใจหรืออายไหมนะ?" ถ้าคิดว่าอาจทำให้เพื่อนไม่สบายใจ ก็ไม่ควรโพสต์ เหมือนกับการที่เราไม่ควรเอาของส่วนตัวของเพื่อนไปโชว์คนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ถ้าหากน้องๆ ไปเจอเพื่อนโดนแกล้งบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้คำพูดไม่ดี การส่งข่าวลือ หรือส่งรูปน่ากลัวๆ มาให้ หรือแม้แต่ตัวน้องๆ เองที่โดนรบกวน ถูกรังควาน สะกดรอย หรือกลั่นแกล้ง น้องๆ ควร บอกให้ผู้ใหญ่ที่ไว้ใจทันที เช่น คุณพ่อ คุณแม่ คุณครู หรือพี่ๆ และควร Block (บล็อก) และ Report (รายงาน) บัญชีของคนที่ไม่ดีเหล่านั้นด้วยนะ ถ้าเป็นรูปภาพหรือข้อความไม่ดีที่เกี่ยวกับน้องๆ น้องๆ อาจจะต้องขอให้ผู้ใหญ่ช่วย ลบ ออกจากโลกออนไลน์ทันที
ถ้าเราเห็นเพื่อนโดนแกล้งออนไลน์ เราควรทำยังไงดีที่สุด?
ควรบอกให้ผู้ใหญ่ที่ไว้ใจทราบทันที เช่น คุณพ่อ คุณแม่ หรือคุณครูค่ะ/ครับ และช่วยเพื่อน Block และ Report คนที่แกล้งนั้นออกไป
3. การตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัย และการป้องกันไวรัสและมัลแวร์
รหัสผ่าน หรือ Password เปรียบเหมือนกับกุญแจสำคัญที่ใช้ปกป้องของมีค่าของเราในโลกดิจิทัล ถ้าใครรู้รหัสผ่านของเรา ก็จะเข้ามาดูข้อมูลของเราได้ วิธีการตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัย
รหัสผ่านควรยาว อย่างน้อย 8 ตัวอักษร
ต้องมีตัวอักษรพิมพ์เล็ก และตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ ผสมกัน
มี ตัวเลข (0-9)
มี สัญลักษณ์ แปลกๆ เช่น & % $ # @ ! *
ไม่ควรใช้ข้อมูลส่วนตัว ที่คนอื่นเดาง่ายๆ เช่น ชื่อ วันเกิด หรือเบอร์โทรศัพท์
ไม่ควรใช้รหัสผ่านเดียวกัน กับทุกบัญชี
ควร เปลี่ยนรหัสผ่านบ่อยๆ ทุก 3 เดือน
ตัวอย่างรหัสผ่านที่ดี แทนที่จะใช้ "Krugig1234" ลองใช้ "KrUg!g@t2568" หรือใช้ภาษาไทยพิมพ์บนแป้นพิมพ์อังกฤษ
เช่น "สวัสดีคุณครู" (พิมพ์แล้วจะได้ l;ylfu86I8i^)
รหัสผ่านแบบไหนที่ปลอดภัยที่สุดและทำไม?
รหัสผ่านที่ปลอดภัยที่สุดคือรหัสผ่านที่ยาว มีตัวอักษรพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ ตัวเลข และสัญลักษณ์ผสมกันค่ะ/ครับ และไม่ควรเป็นข้อมูลส่วนตัวที่คนอื่นเดาได้ง่ายๆ เช่น ชื่อหรือวันเกิด เพราะจะทำให้คนร้ายเดาได้ยากขึ้นมาก
4. การหลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
ในชีวิตจริง เราต้องระมัดระวังคนแปลกหน้า เช่น ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัว ไม่รับขนมจากคนแปลกหน้า หรือไม่รู้จัก ในโลกออนไลน์ก็เหมือนกัน เราควรหลีกเลี่ยงการเข้าเว็บไซต์หรือกดลิงก์ที่ไม่รู้จักผู้ส่ง หรือไม่น่าไว้ใจ เพราะลิงก์หรือไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจเป็นช่องทางที่ทำให้มัลแวร์หรือไวรัสเข้ามาในเครื่องของเราได้
ถ้ามีอีเมลแปลกๆ ส่งมา ชวนให้เรากดลิงก์เพื่อดาวน์โหลดเกมใหม่ฟรี หรือมีหน้าต่างเด้งขึ้นมาบอกให้เรากด "ตกลง" เพื่อติดตั้งอะไรบางอย่าง เราควร ปรึกษาผู้ใหญ่ก่อนเสมอ และไม่ควรกดหรือดาวน์โหลดอะไรจากแหล่งที่ไม่แน่ใจ
ถ้ามีข้อความชวนให้เรากดลิงก์เล่นเกมใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เราควรกดไหม?
ไม่ควรกดค่ะ/ครับ เพราะอาจเป็นลิงก์ที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวของเราถูกขโมย หรือทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ของเราติดไวรัสได้ ควรปรึกษาผู้ใหญ่ก่อนเสมอ
5. การจัดการข้อมูลที่ไม่ต้องการให้ปรากฏบนอินเทอร์เน็ต
ในการใช้งานบนโลกออนไลน์ ร่องรอยที่เราทิ้งไว้บนโลกดิจิทัลจะคงอยู่ถาวร และไม่สามารถลบได้ แต่เราสามารถบริหารจัดการและตรวจสอบร่องรอยดิจิทัลของเราได้นะ เพื่อให้มีแต่สิ่งดีๆ อยู่บนโลกออนไลน์
ลองค้นหาข้อมูลของตัวเราเอง ใน Google โดยใช้ชื่อ-นามสกุล หรือชื่อบัญชีโซเชียลมีเดียของเรา เพื่อตรวจสอบว่ามีข้อมูลอะไรที่ไม่ดีปรากฏอยู่ไหม หรือมีใครแอบอ้างเป็นเราหรือเปล่า
ทำรายการบัญชีออนไลน์ ที่เราเคยสมัครไว้ และ หมั่นลบบัญชีที่เราไม่ได้ใช้แล้ว เพื่อไม่ให้มีข้อมูลของเราอยู่เยอะเกินความจำเป็น
ใช้งานโหมด "ไม่ระบุตัวตน" (Incognito Mode) ในเว็บบราวเซอร์บ้าง โหมดนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ที่เราเข้าติดตามข้อมูลส่วนตัวของเราได้มากเกินไป
หากพบรูปภาพหรือข้อความที่เป็นการระรานรังแกเรา น้องๆ หรือผู้ใหญ่สามารถ ติดต่อผู้ดูแลระบบ เพื่อให้ช่วยลบออกจากพื้นที่สาธารณะบนโลกออนไลน์ได้
ทำไมเราควรลองค้นหาชื่อตัวเองใน Google บ้างนะ?
เพื่อตรวจสอบว่ามีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับตัวเราปรากฏอยู่บนอินเทอร์เน็ตบ้างค่ะ/ครับ รวมถึงดูว่ามีข้อมูลที่ไม่ดีปรากฏอยู่ไหม หรือมีใครแอบอ้างเป็นเราหรือเปล่า จะได้จัดการได้ทันท่วงที
Page updated
Google Sites
Report abuse